เลเซอร์สิว กำจัดต้นตอสิวอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวเลือกใหม่ของคนกลัวเข็ม

เลเซอร์สิว กำจัดต้นตอสิวอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวเลือกใหม่ของคนกลัวเข็ม

การรักษาสิวที่ถูกกับสภาพผิวหน้า อาจะเป็นปัญหาโลกแตกสำหรับหลาย ๆ คน เพราะนอกจากผิวพรรณและพันธุกรรมที่แตกต่าง การค้นหาวิธีที่ลองผิดลองถูกนั้นอาจลุกลามทำให้สิวของคุณแย่ไปกว่าเดิม จะดีกว่าไหมถ้าคุณลองเปิดใจกับเทคโนโลยีอย่าง เลเซอร์สิว เนื่องจากเลเซอร์นี้มีหลากหลายประเภท สามารถรักษาได้ตรงจุดโดยไม่ต้องจิ้มเข็มให้เจ็บตัว อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ช่วยแก้ไขปัญหารอยดำ รอยแดง รอยแผลเป็น และหลุมสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่กลัวเข็มหรือเบื่อกับวิธีการเดิม ๆ ที่ต้องใช้เวลานาน ในบทความนี้จะมาค้นหาวิธีกำจัดต้นตอของสิวอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านหัตถการเลเซอร์สิว ทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์สำหรับทุกคนที่ปรารถนาผิวหน้าเรียบเนียน โดยเราจะแยกประเภทเลเซอร์, การทำงาน, ประโยชน์ที่คุณจะได้รับอย่างละเอียดยิบ พร้อมทั้งคำแนะนำเพิ่มเติมที่ให้คุณได้ผิวสวยหลังหัตถกรรมยิ่งขึ้น


เลเซอร์สิว มีกี่แบบกันนะ?

เลเซอร์สิว มีกี่แบบกันนะ

CO2 (Carbon Dioxide Laser)

  • หลักการทำงาน: เลเซอร์ CO2 ทำงานโดยการลอกเอาชั้นผิวหนังชั้นนอกออกไป โดยใช้พลังงานแสงที่มีความเข้มข้นสูง เป็นการรักษาแบบผลัดผิวที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่
  • ประโยชน์: เหมาะสำหรับการลดรอยแผลเป็นจากสิวและหลุมสิว นอกจากนี้ยังช่วยในการปรับปรุงสภาพผิวโดยรวม ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น
  • ข้อควรระวัง: หลังการรักษา ผู้รับการรักษาอาจต้องเผชิญกับระยะเวลาพักฟื้นที่ยาวนานกว่าเลเซอร์ชนิดอื่น พร้อมกับผลข้างเคียงเช่นการแดงและบวม

Er:YAG (Erbium-Doped Yttrium Aluminum Garnet Laser)

  • หลักการทำงาน: เลเซอร์ Er:YAG ใช้พลังงานแสงที่มีความเฉพาะเจาะจงสูงในการลอกชั้นผิวหนังชั้นนอกโดยไม่ทำลายผิวหนังชั้นใน
  • ประโยชน์: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดหลุมสิวและรอยแผลเป็นโดยมีระยะเวลาพักฟื้นที่สั้นกว่าเลเซอร์ CO2 นอกจากนี้ยังมีความเจ็บปวดน้อยหลังการรักษา
  • ข้อควรระวัง: แม้ว่าเลเซอร์ Er:YAG จะมีผลข้างเคียงน้อยกว่าและระยะเวลาพักฟื้นสั้นกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเลเซอร์ CO2, แต่ผู้รับการรักษาอาจจำเป็นต้องผ่านการรักษาหลายครั้งเพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ต้องการ รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรงและใช้ครีมกันแดดสูงเพื่อป้องกันผิวหลังการรักษา

เลเซอร์ Nd:YAG (Neodymium-Doped Yttrium Aluminum Garnet Laser)

  • หลักการทำงาน: เลเซอร์ Nd:YAG ใช้คลื่นแสงที่สามารถเจาะลึกลงไปในชั้นผิวหนังได้ดี โดยไม่ทำลายผิวหนังชั้นนอก ช่วยลดการอักเสบและแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิว
  • ประโยชน์: เหมาะสำหรับการรักษาสิวอักเสบ, ลดรอยแดงและช่วยลดการผลิตน้ำมันบนผิวหนัง นอกจากนี้ยังสามารถใช้รักษารอยสิวและหลุมสิวได้บางส่วน
  • ข้อควรระวัง: ผู้รับการรักษาอาจต้องการหลายเซสชั่นการรักษาเพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน และควรมีการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินผลข้างเคียงและคำแนะนำเฉพาะบุคคลหลังการรักษา

Pico Laser

  • หลักการทำงาน: Pico Laser ใช้พลังงานแสงที่ปล่อยออกมาในระยะเวลาสั้นมาก (พิโควินาที) เพื่อทำลายเม็ดสีผิดปกติและกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ โดยไม่ทำลายผิวหนังชั้นนอก
  • ประโยชน์: เหมาะสำหรับการรักษารอยดำและรอยแดงจากสิว, รวมถึงการลดรอยแผลเป็นจากสิวและหลุมสิว มีระยะเวลาพักฟื้นที่สั้นและมีผลข้างเคียงน้อย
  • ข้อควรระวัง: ผู้รับการรักษาควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดด และใช้ครีมกันแดดเป็นประจำหลังการรักษา

Omnilux

  • หลักการทำงาน: Omnilux ใช้แสง LED ที่มีความยาวคลื่นแสงเฉพาะเจาะจงเพื่อกระตุ้นการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวหนัง ไม่ใช่เลเซอร์แบบดั้งเดิม แต่ให้ผลลัพธ์ที่คล้ายกัน
  • ประโยชน์: ช่วยในการลดการอักเสบของสิว, กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน, และช่วยให้ผิวหน้าดูสดใสขึ้น การรักษาด้วย Omnilux เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการวิธีการรักษาที่ไม่รุนแรง
  • ข้อควรระวัง: การรักษาอาจต้องทำหลายครั้งเพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

IPL (Intense Pulsed Light)

  • หลักการทำงาน: เพื่อรักษาปัญหาผิวหลากหลาย รวมถึงการลดการอักเสบของสิว, การฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิว, และลดรอยดำและรอยแดงจากสิว เลเซอร์ IPL ใช้พลังงานแสงสเปกตรัมกว้างที่สามารถเจาะลึกลงไปในชั้นผิวหนัง
  • ประโยชน์: มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาสิวและปัญหาผิวหนังที่เกี่ยวข้องกับสีผิว เช่น รอยดำและรอยแดง นอกจากนี้ยังสามารถช่วยในการลดการผลิตน้ำมันบนผิวหนัง
  • ข้อควรระวัง: ผู้รับการรักษาอาจต้องการหลายเซสชันการรักษาเพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ต้องการ และควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดหลังการรักษา เนื่องจากผิวหนังอาจกลายเป็นแพ้แสงได้ง่ายขึ้น

กลไกการทำงาน และประสิทธิภาพ

กลไกการทำงาน และประสิทธิภาพ

การรักษาสิวด้วยเลเซอร์ เป็นวิธีการที่ใช้เทคโนโลยีแสงเพื่อจัดการกับปัญหาสิวและผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น รอยแผลเป็นจากสิว และหลุมสิว กลไกการทำงานของเลเซอร์ในการรักษาสิวมีหลายรูปแบบ แต่โดยพื้นฐานแล้วทำงานโดยการลดการอักเสบของสิว, ลดการผลิตน้ำมันบนผิวหนัง, และกำจัดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิว นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการซ่อมแซมผิวหนังและลดรอยแผลเป็น

ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการรักษา

ประสิทธิภาพของการรักษาสิวด้วยเลเซอร์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึงชนิดของเลเซอร์ที่ใช้, ความรุนแรงของสิว, และการตอบสนองของผู้รับการรักษา โดยทั่วไป การรักษาสิวด้วยเลเซอร์สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดี ได้แก่:

  • บรรเทาการอักเสบของสิว : การรักษาด้วยเลเซอร์สามารถลดขนาดและความอักเสบของสิวได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้สิวแห้งและหายไป
  • ลดการผลิตน้ำมัน : เลเซอร์บางชนิดสามารถลดการผลิตน้ำมันของต่อมไขมันบนผิวหนัง ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดสิว
  • ลดรอยแผลเป็นและหลุมสิว : การรักษาด้วยเลเซอร์ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการซ่อมแซมผิวหนังและลดรอยแผลเป็นจากสิว

ข้อดีของการรักษาสิวด้วยเลเซอร์ เมื่อเทียบกับวิธีอื่น

ข้อดีของการรักษาสิวด้วยเลเซอร์เมื่อเทียบกับวิธีอื่

การรักษาสิวด้วยเลเซอร์ นับเป็นวิธีการที่นำเสนอข้อดีหลายประการเมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการรักษาอื่น ๆ ทำให้เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาผิวพรรณโดยเฉพาะอย่างยิ่งสิว รอยแผลเป็นจากสิว และปัญหาผิวหนังอื่นๆ ด้วยเหตุผลต่อไปนี้:

การลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อและผลข้างเคียง

เลเซอร์ให้ความแม่นยำสูงในการรักษาโดยไม่มีการสัมผัสโดยตรงกับผิวหนัง ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและผลข้างเคียงเมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการรักษาทางเคมีหรือการผ่าตัด เช่น การใช้ยาทาหรือการเจาะผิวหนัง การใช้เลเซอร์ทำให้สามารถควบคุมการรักษาได้อย่างละเอียดรอบคอบ ช่วยลดโอกาสของการเกิดผลข้างเคียง เช่น การระคายเคืองหรือการเกิดแผลเป็นเพิ่มเติม

เหมาะกับคนกลัวเข็ม

สำหรับผู้ที่มีความวิตกกังวลหรือกลัวเข็ม จากวิธีกดสิวกับฉีดสิว การรักษาด้วยเลเซอร์เป็นทางเลือกที่ดีที่ไม่ต้องใช้เข็มในการรักษา ทำให้เป็นวิธีที่น่าพึงพอใจและน้อยความเครียดสำหรับหลายๆ คนที่ต้องการรักษาปัญหาผิวหนังโดยไม่ต้องเจอกับเข็ม

ลดรอยแผลเป็นและปรับปรุงสภาพผิว

การรักษาด้วยเลเซอร์ไม่เพียงแต่ช่วยลดสิวและรอยอักเสบจากสิวเท่านั้น แต่ยังสามารถลดรอยแผลเป็นและปรับปรุงสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนขึ้น ด้วยการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง เลเซอร์ช่วยในการซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวหนังจากภายใน ออกไป ทำให้รอยแผลเป็นและหลุมสิวจางลง ส่งผลให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนและมีสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ความรวดเร็วแลสะดวกในการรักษา

หนึ่งในข้อได้เปรียบหลักของการรักษาด้วยเลเซอร์คือความรวดเร็วและความสะดวก การรักษาสามารถทำได้ภายในเวลาอันสั้น โดยไม่ต้องมีการเตรียมตัวมากนักหรือมีระยะเวลาพักฟื้นนานเมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการรักษาอื่นๆ เช่น การผ่าตัด นอกจากนี้ การรักษาด้วยเลเซอร์สามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องมีการนอนพักในโรงพยาบาล ผู้รับการรักษาสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้


เตรียมตัวยังไงดีก่อนทำเลเซอร์

เตรียมตัวยังไงดีก่อนทำเลเซอร์

การเตรียมตัวก่อนการรักษาสิวด้วยเลเซอร์คือขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง โดยมีวิธีการเตรียมตัวดังนี้:

  • ประเมินสภาพผิวกับแพทย์: การตรวจสอบและปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ช่วยวางแผนการรักษาที่เหมาะสม รวมถึงการประเมินความเสี่ยงและคาดหวังผลลัพธ์ที่จะได้รับอย่างชัดเจน
  • งดแต่งหน้า: ให้ผิวหน้าได้พักผ่อนจากเครื่องสำอาง เพื่อป้องกันการระคายเคืองในระหว่างและหลังการรักษา
  • ระวังแสงแดด: การหลีกเลี่ยงแสงแดดช่วยป้องกันผิวจากความเสียหาย และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงเช่น การเกิดจุดด่างดำหลังการรักษา
  • งดกิจกรรมที่ทำให้ผิวร้อน: สภาพแวดล้อมที่ทำให้ผิวร้อนอาจเพิ่มความเสี่ยงของการระคายเคือง ควรหลีกเลี่ยงเพื่อให้ผิวพร้อมสำหรับการรักษา เช่น อ่าบน้ำร้อน, ซาวน่า, หรือแช่น้ำพุร้อน เป็นต้น
  • ไม่จับหรือบีบสิว: การแตะต้องสิวอาจทำให้ผิวหน้าอักเสบ ควรหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้สภาพผิวแย่ลงก่อนการรักษา
  • หมั่นใช้ครีมกันแดด: ครีมกันแดดเป็นเกราะป้องกันผิวจากแสง UV ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีและลดการเกิดเม็ดสีหลังการรักษา
  • ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับยา: การหยุดยาบางชนิดตามคำแนะนำของแพทย์ช่วยป้องกันผลข้างเคียง และเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา สำคัญต่อการเตรียมตัวก่อนการรักษาด้วยเลเซอร์
  • หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว: ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมเช่น Hydroxy Acids, Benzoyl Peroxide หรือ Retinol ควรหยุดใช้ก่อนการรักษา เพื่อลดความเสี่ยงของผิวหนังที่อาจบอบบางหรือเกิดการระคายเคือง
  • งดวิตามินและสมุนไพรบางตัว: บางวิตามินหรือสมุนไพรอาจทำให้เลือดออกง่ายหรือหายช้า การงดใช้ก่อนการรักษาช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดบวมช้ำหลังการรักษา
  • ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัว: การมีโรคประจำตัวหรือการใช้ยาบางชนิดอาจมีผลต่อการรักษาด้วยเลเซอร์ การปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ
  • งดขัดผิว: การขัดผิวหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวผลัดเซลล์เร็วขึ้นควรหลีกเลี่ยงก่อนการรักษา เพื่อไม่ให้ผิวหนังบอบบางและเสี่ยงต่อการเกิดระคายเคืองหลังการรักษา

ดูแลตนเองอย่างไรหลังหัตการ

ดูแลตนเองอย่างไรหลังหัตการ

การดูแลตัวเองหลังจากการทำเลเซอร์รักษาสิวเป็นสิ่งสำคัญเพื่อเร่งการฟื้นฟูของผิวและลดโอกาสในการเกิดผลข้างเคียง นี่คือข้อแนะนำสำหรับการดูแลตัวเองหลังการรักษา:

การดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์รักษาสิว

  • หลีกเลี่ยงแสงแดด: ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรงและใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูงอย่างน้อย 30 และมีการป้องกัน UVA และ UVB เป็นประจำทุกวัน แม้ในวันที่ฟ้าครึ้ม
  • ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างอ่อนโยน: ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวและครีมบำรุงที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดหรือเรตินอย
  • ไม่แกะหรือบีบผิว: หลีกเลี่ยงการแกะหรือบีบบริเวณที่ทำเลเซอร์ เพื่อป้องกันการเกิดแผลเป็นและการติดเชื้อ
  • รักษาความชุ่มชื้น: ใช้ครีมบำรุงผิวที่มีสารช่วยเพิ่มความชื้นเพื่อช่วยฟื้นฟูผิวหนังและลดการระคายเคือง เช่น มอยซ์เจอไรเซอร์ หรือเจลว่านหางจระเข้

เลเซอร์สิวกี่วันถึงจะหาย

ระยะเวลาในการฟื้นตัวหลังจากการทำเลเซอร์รักษาสิวอาจแตกต่างกันไปตามชนิดของเลเซอร์ที่ใช้และสภาพผิวของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปอาจใช้เวลาจากหลายวันถึงหลายสัปดาห์ ผู้รับการรักษาอาจเริ่มเห็นการปรับปรุงภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและความดีขึ้นอย่างเต็มที่อาจใช้เวลาหลายเดือน

ผลข้างเคียงที่อาจได้รับ

  • บวมแดง: เป็นผลข้างเคียงทั่วไปหลังการทำเลเซอร์ บริเวณที่รักษาอาจปรากฏความแดงและบวมเล็กน้อย ซึ่งปกติจะลดลงภายในไม่กี่วัน
  • รู้สึกแสบร้อน: ผู้รับการรักษาบางคนอาจรู้สึกแสบหรือร้อนบริเวณที่ทำเลเซอร์ ความรู้สึกนี้ควรหายไปในเวลาอันสั้น
  • ผิวลอก: อาจมีการผลัดผิวหรือหลุดลอกในบริเวณที่ได้รับการรักษา เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการฟื้นฟูผิว และจะเกิดขึ้นภายในไม่กี่วันหลังการรักษา
  • จุดด่างดำอ่อน ๆ : ในบางกรณี อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีผิวทำให้เกิดจุดด่างดำหรือจุดด่างอ่อนบนผิวหนัง ส่วนใหญ่เหล่านี้เป็นผลข้างเคียงชั่วคราวและจะค่อยๆ หายไป
  • ระคายเคืองหรือการติดเชื้อ: หากไม่ดูแลบริเวณที่รักษาอย่างถูกวิธี อาจเกิดการระคายเคืองหรือแม้กระทั่งการติดเชื้อ สำคัญที่จะต้องทำความสะอาดและดูแลบริเวณที่รักษาตามคำแนะนำของแพทย์

การรักษาสิวด้วยเลเซอร์ เป็นวิธีการที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงในการจัดการกับปัญหาสิวและผลลัพธ์ที่ตามมา เช่น รอยแผลเป็นและหลุมสิว ทำให้ข้อดีของหัตถการนี้เป็นมากกว่าแค่รักษาสิวให้จบไปอย่างเดียว แต่ยังช่วยซ่อมแซมและปรับปรุงสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนขึ้น หากใครกำลังลังเลว่าจะทำดีไหม เราแนะนำว่าปรึกษากับแพทย์ผิวหนังที่มีประสบการณ์ เพื่อประเมินสภาพผิวและความเหมาะสมในการรับการรักษาอย่างเจาะจง นอกจากนี้ ควรพิจารณาเรื่องราคาและความพร้อมในการติดตามการรักษาหลายครั้งหากจำเป็น และที่สำคัญ ควรเตรียมตัวก่อนและหลังการรักษาอย่างเหมาะสมเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดโอกาสในการเกิดผลข้างเคียง


คำถามที่พบบ่อย

1. เลเซอร์รักษาสิวใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะเห็นผล?

การเห็นผลลัพธ์จากการรักษา อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล โดยปกติอาจเริ่มเห็นการปรับปรุงหลังจากครั้งแรก แต่เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อาจต้องการการรักษาหลายครั้ง โดยเฉลี่ยอาจใช้เวลา 1-3 เดือน

2. การรักษาสิวด้วยเลเซอร์มีอันตรายหรือไม่?

การรักษาสิวด้วยเลเซอร์ถือว่าปลอดภัยเมื่อทำโดยผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม อาจมีผลข้างเคียงเช่นความรู้สึกแสบร้อน, การบวมแดง และการผลัดผิว ซึ่งโดยปกติจะหายไปภายในไม่กี่วัน

3. ควรดูแลตัวเองอย่างไรหลังการรักษาด้วยเลเซอร์?

ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและใช้ครีมกันแดดทุกวัน, ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างอ่อนโยน, หลีกเลี่ยงการแกะหรือบีบผิวที่รักษา, และรักษาความชื้นของผิว เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้นและลดผลข้างเคียง

4. เลเซอร์รักษาสิวสามารถกำจัดหลุมสิวได้หรือไม่?

เลเซอร์สามารถช่วยลดหลุมสิวได้โดยการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนภายใต้ผิวหนัง ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามสภาพและความลึกของหลุมสิว บางกรณีอาจต้องการการรักษาหลายครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน


อ้างอิง

  1. Lasers and Lights: How Well Do They Treat Acne?, AAD, February 5, 2022, https://www.aad.org/public/diseases/acne/derm-treat/lasers-lights.
  2. Laser Treatment of Acne Vulgaris, NIH, August 21, 2007, https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2884837/.
  3. Kathryn Watson, Everything You Want to Know About Laser Treatment for Acne Scars, Healthline, October 17, 2019, https://www.healthline.com/health/beauty-skin-care/laser-treatment-for-acne-scars

Similar Posts