ฉีดฟิลเลอร์ คืออะไร ? ตัวช่วยปรับรูปหน้า เติมเต็มผิว และข้อควรรู้ก่อนทำ
สาว ๆ คนไหนก็อยากมีใบหน้าที่สวยใส กระชับและอ่อนกว่าวัย วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกับ ฟิลเลอร์ใบหน้า หรือเรียกอีกอย่างว่า เดอร์มัลฟิลเลอร์ (dermal fillers) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อฉีดบริเวณใบหน้า ช่วยเพิ่มหรือปรับเปลี่ยนรูปหน้า ทำให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้นโดยที่คุณไม่ต้องผ่าตัด รวมถึงได้กลายเป็นหัตถการสําคัญในวงการเสริมความงามไปแล้ว แต่ก่อนที่เราจะทำการ ฉีดฟิลเลอร์ ใด ๆ บนใบหน้าก็ควรหาข้อมูล ทำความเข้าใจให้ดีเสียก่อน รวมถึงประโยชน์ ข้อควรปฏิบัติต่าง ๆ ในการฉีดฟิลเลอร์บริเวณใบหน้า และข้อควรรู้ก่อนที่คุณจะตัดสินใจทำ
ความเข้าใจเกี่ยวกับฟิลเลอร์บริเวณใบหน้า
-
ฉีดฟิลเลอร์ คืออะไร?
ฟิลเลอร์เป็นสารที่ฉีดเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อเพิ่มปริมาตรและความอิ่มเอิบ สารที่ใช้มีหลากหลายประเภท เช่น hyaluronic acid, poly-L-lactic acid หรือ calcium hydroxylapatite ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะ และระยะเวลาในการออกฤทธิ์เฉพาะ
-
ฟิลเลอร์ใบหน้าทำงานอย่างไร?
เมื่อฉีดเข้าไปแล้ว ฟิลเลอร์ช่วยจะเติมเต็มบริเวณที่สูญเสียปริมาตร เนื่องจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นหรือปัจจัยอื่น ๆ ช่วยลดเลือนริ้วรอย ทำให้รอยย่นหรือริ้วรอยเรียบลง คืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้า หรือฉีดเพื่อทําให้ริมฝีปากอิ่ม
ประโยชน์ของการฉีดฟิลเลอร์
1. เห็นผลทันทีและไม่ต้องพักฟื้น
ข้อดีหลักประการหนึ่งของฟิลเลอร์ใบหน้าคือ เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ทันที นอกจากนี้ ยังไม่จำเป็นที่จะต้องหยุดพักฟื้น ทำให้ผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันต่อได้ หลังจากทำหัตถการไม่นาน
2. ปรับใช้ได้หลากหลาย
เดอร์มัลฟิลเลอร์สามารถใช้ได้กับบริเวณต่าง ๆ ของใบหน้า รวมถึงรอบดวงตา แก้ม ปาก และแนวขากรรไกร ทำให้เป็นตัวเลือกที่หลากหลายสำหรับการเสริมความงามบนใบหน้า
3. เพิ่มความมั่นใจในตนเอง
ฟิลเลอร์สามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจในตนเองได้อย่างมาก โดยช่วยปรับรูปลักษณ์ภายนอกได้
4. ดูเป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์บนใบหน้าช่วยเสริมลุคให้ดูเป็นธรรมชาติ หลีกเลี่ยงลุคเกินจริงที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนความงามบางอย่าง
5. ส่งเสริมการผลิตคอลลาเจน
ฟิลเลอร์บางชนิดได้รับการออกแบบมา เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนตามธรรมชาติของตัวเอง ซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์สุขภาพผิวที่ดีขึ้น
6. ใช้ร่วมกับหัตถการอื่น ๆ
การฉีดฟิลเลอร์บนใบหน้าสามารถใช้ร่วมกับขั้นตอนความงามอื่น ๆ เช่น โบท็อกซ์หรือทรีทเมนท์เลเซอร์ เพื่อการฟื้นฟูผิวหน้าอย่างครอบคลุม
ประเภทของฟิลเลอร์
1. Hyaluronic acid (HA)
กรดไฮยาลูโรนิก เป็นสารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่พบในผิวหนังของเรา ซึ่งช่วยให้ผิวอวบอิ่มและชุ่มชื้น ฟิลเลอร์ HA มีความนุ่มและมีลักษณะเหลวคล้ายเจล ผลลัพธ์จะเกิดขึ้นชั่วคราว อยู่ได้นาน 6 ถึง 12 เดือนหรือมากกว่านั้น ก่อนที่ร่างกายจะค่อย ๆ ดูดซึมอนุภาคต่าง ๆ เหล่านั้นไปเองตามธรรมชาติ
2. Calcium Hydroxylapatite (CaHA)
CaHA เป็นสารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่พบในกระดูกของเรา เมื่อนำมาใช้ในฟิลเลอร์ อนุภาคแคลเซียมแทบจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าและกระจายอยู่ในเจลเนื้อเรียบ ฟิลเลอร์ CaHA โดยทั่วไปจะมีความหนืดมากกว่าฟิลเลอร์กรดไฮยาลูโรนิก และมักจะอยู่ได้นานกว่าเช่นกัน ประมาณ 12 เดือนต่อการฉีด 1 ครั้ง
3. Poly-L-lactic Acid
กรดโพลี-แอล-แลคติคเป็นสารสังเคราะห์ที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ ซึ่งปลอดภัยต่อการใช้ในร่างกาย โดยทั่วไปแล้วกรดโพลี-แอล-แลคติคจะใช้เป็นสารตัวเติมเพื่อรักษาริ้วรอยบนใบหน้าที่ลึกลงไป และสามารถอยู่ได้นานกว่า 2 ปี
4. Polymethylmethacrylate (PMMA)
ฟิลเลอร์ PMMA ประกอบด้วยไมโครสเฟียร์ซึ่งคงอยู่ใต้ผิวหนังได้ตลอดไป เพื่อให้การรองรับอย่างต่อเนื่อง
5. การฉีดไขมัน (Fat Grafting)
เกี่ยวข้องกับการนำไขมันจากส่วนอื่นของร่างกายมาฉีดเข้าที่ใบหน้า
ข้อควรพิจารณาก่อนทำ
- ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ
ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกฉีดฟิลเลอร์ใบหน้า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถประเมินความต้องการของคุณ และแนะนำประเภทของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมได้
- ทำความเข้าใจเรื่องค่าใช้จ่าย
การฉีดฟิลเลอร์บริเวณใบหน้าอาจต้องลงทุนค่อนข้างสูง การทราบค่าใช้จ่ายล่วงหน้าและความจำเป็นในการติดตามการรักษา หรืออาจต้องมีการฉีดซ้ำอีก ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการวางแผนค่าใช้จ่ายเบื้องต้น
- วิธีเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมที่สุด
การปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือศัลยแพทย์เสริมความงามที่ได้รับการรับรอง ซึ่งสามารถประเมินโครงสร้างใบหน้า สีผิว และผลลัพธ์ที่คุณต้องการได้ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเลือกประเภทของฟิลเลอร์ที่เหมาะสม
ขั้นตอนการฉีด
- การฉีดฟิลเลอร์ โดยปกติขั้นตอนนี้จะใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง และผู้ที่ฉีดไปแล้วส่วนใหญ่มักจะบอกว่ารู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็สามารถใช้ยาชาเฉพาะที่หรือน้ำแข็ง เพื่อลดอาการปวดได้
- การดูแลหลังการรักษา หลังจากทำหัตถการแล้ว ผู้ฉีดควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังมากเป็นระยะเวลาสั้น ๆ และอาจแนะนำให้ใช้น้ำแข็ง เพื่อลดอาการบวม
การดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์
-
การดูแลหลังฉีดทันที
คุณควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหรือการบํารุงหน้าอื่น ๆ ทันทีหลังการฉีด เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ หรือการระคายเคือง
-
การบำรุงผิวระยะยาว
แม้ว่าฟิลเลอร์บางชนิดจะอยู่ได้เพียงไม่กี่เดือน แต่บางชนิดก็สามารถอยู่ได้นานหลายปี การนัดหมายติดตามผลเป็นประจำจะช่วยรักษารูปทรงใบหน้าที่คุณต้องการได้
ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน
-
ผลข้างเคียงทั่วไป
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่ อาการบวม ช้ำ และรอยแดงบริเวณที่ฉีด สิ่งเหล่านี้มักจะบรรเทาลงและหายไปเองภายในไม่กี่วัน
-
ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง
แม้ว่าจะพบไม่บ่อยแต่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ เช่น อาการแพ้หรือการติดเชื้อ หากมีอาการที่น่ากังวลหรือเห็นอาการผิดปกติใด ๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าพบแพทย์และรับการรักษาทันที
ทางเลือกการทำหัตถการอื่น ๆ
- โบท็อกซ์ แม้ว่าฟิลเลอร์จะช่วยเพิ่มปริมาตรให้แก่ใบหน้า แต่การฉีดโบท็อกซ์ ทำงานโดยการคลายกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดริ้วรอย จึงมักใช้ร่วมกับฟิลเลอร์ เพื่อการรักษาต่อต้านริ้วรอยอย่างครอบคลุม
- เลเซอร์บำรุงผิวหน้า สำหรับปัญหาผิว เช่น ริ้วรอยหรือหรือรอยด่างดํา เลเซอร์บํารุงผิวหน้า สามารถเสริมฤทธิ์ของฟิลเลอร์ในการเพิ่มปริมาตรให้แก่ใบหน้าได้
- การร้อยไหม อีกหัตถการหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ การร้อยไหม ซึ่งสามารถช่วยยกกระชับและกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนบนใบหน้า
ฟิลเลอร์ใบหน้าเป็นอีกการทำหัตถการความงามที่น่าสนใจ เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์เป็นทางเลือกที่ไม่ต้องผ่าตัด ด้วยผลลัพธ์ที่เห็นผลทันทีและไม่ต้องหยุดพักฟื้น ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า และในการช่วยทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ เมื่อคุณพิจารณาที่จะฉีดฟิลเลอร์ใบหน้า สิ่งสำคัญคือต้องมีความคาดหวังที่สมเหตุสมผล และควรปรึกษาร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรองเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด รวมทั้งการทำความเข้าใจประเภทของฟิลเลอร์ที่มีอยู่ ขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง และการดูแลตัวเองทั้งก่อน-หลังฉีดที่จำเป็น จะช่วยให้มั่นใจได้ถึงผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
คำถามที่พบบ่อย
1. ฟิลเลอร์ใบหน้าอยู่ได้นานเฉลี่ยเท่าไหร่?
ระยะเวลาการออกฤทธิ์ของฟิลเลอร์บนใบหน้ามีอายุแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภทที่ใช้ ตั้งแต่ 6 เดือนไปจนถึงหลายปี
2. ฟิลเลอร์ใบหน้าเจ็บหรือไม่?
ส่วนใหญ่รู้สึกเจ็บน้อย แต่มักใช้ยาชาเฉพาะที่ เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดในระหว่างการทำหัตถการ
3. การฉีดฟิลเลอร์ อาจดูไม่เป็นธรรมชาติได้หรือไม่?
เมื่อทำอย่างถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ฟิลเลอร์ควรดูเป็นธรรมชาติ การเลือกประเภทและปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ
4. โบท็อกซ์และฟิลเลอร์ใบหน้าแตกต่างกันอย่างไร?
โบท็อกซ์ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว เพื่อลดริ้วรอย ในขณะที่ฟิลเลอร์ช่วยเพิ่มปริมาตรให้กับใบหน้า เพื่อทำให้ริ้วรอยเรียบเนียนหรือช่วยเสริมความสวยงามของใบหน้าได้
อ้างอิง :
- “Dermal Fillers,” Cleveland clinic, June 06, 2022, www.my.clevelandclinic.org/health/treatments/22667-dermal-fillers.
- Mayo Clinic Staff, “Facial fillers for wrinkles,” Mayo clinic, April 30, 2022, www.mayoclinic.org/tests-procedures/facial-fillers/about/pac-20394072.
- “Dermal Filler Do’s and Don’ts for Wrinkles, Lips and More,” FDA, July 07, 2023, www.fda.gov/consumers/consumer-updates/dermal-filler-dos-and-donts-wrinkles-lips-and-more.